Header Ads

มือใหม่..ปลูกแคคตัส


พื้นความรู้ง่ายๆ สำหรับมือใหม่..ปลูก แคคตัส ก่อนลงมือปลูก แคคตัส (น้องหนาม)
คนที่หลงรักที่เพิ่งเริ่มต้นเลี้ยง หรือเลี้ยงแล้วแต่น้องหนามและไม้อวบน้ำไม่งามอย่างที่คิดไว้
สิ่งสำคัญ 3 ปัจจัยที่มือใหม่..ปลูกแคคตัสต้องเข้าใจ คือ ความสัมพันธ์ของธรรมชาติต่อการเลี้ยงน้องหนาม
ดิน (soils) เป็นปัจจัยหลักในการเจริญเติบโตของพืชทุกชนิด แคคตัสเองก็เช่นกัน

ดินสำหรับแคคตัสนั้นต้องโปร่ง วัสดุปลูกต้องมีส่วนผสมของดิน ทรายหยาบ หินภูเขาไฟเบอร์00 เพอร์ไลท์เม็ดละเอียด เวอร์มิคูไลท์ นำมาผสมคลุกเคล้ารวมกัน ในอัตราที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ที่สำคัญดินปลูกต้องไม่เกาะเป็นก้อน เช็คได้โดยกำดินที่ผสมแล้ว จากนั้นแบมือออกถ้าดินกระจายออกตามมือไม่เกาะกันถือว่านำมาใช้ได้


สภาพอากาศในช่วงเวลานั้น ควรรดน้ำในช่วงเช้า/ค่ำ เป็นช่วงเวลาที่ไม่ทำให้ต้นไม้เสียหายจากแดด น้องหนามมักต้องการน้ำน้อย 2 – 3 วัน รดซักครั้งก็เพียงพอแล้ว สวนของเรารดอาทิตย์ละครั้ง ช่วงค่ำๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น้องหนามสามารถลดการไหม้แดดลงได้ดี

น้ำ (water) แคคตัสแม้จะเป็นพืชทนแล้ง แต่แคคตัสก็ยังต้องการน้ำในการเจริญเติบโต
และปัญหาที่พบบ่อยในกลุ่มมือใหม่..ปลูกแคคตัส คือ การให้น้ำมากเกินไป
ในส่วนการให้น้ำสามารถทำได้ 2 วิธี คือ ฉีดพ่นน้ำไปที่ต้นโดยตรง หรือการนำกระถางวางแช่ไว้ในภาชนะที่มีน้ำใส่อยู่
วิธีแรกนั้น อาจทำให้ต้นแคคตัสเป็นรอยคราบน้ำ ทำให้มองไม่สวยงาม หรือในกรณีที่ให้ช่วงเช้า แล้วมีน้ำขังอยู่บนลำต้นอาจจะทำให้ต้นเป็นรอยไหม้จากแดดช่วงกลางวันก็เป็นได้
ส่วนวิธีที่ 2 ต้องระมัดระวังดินปลูกอาจชุ่มน้ำมากเกินไป เมื่อสังเกตว่าดินชุ่มน้ำแล้วควรยกออกจากภาชนะและทิ้งไว้ให้น้ำไหลออกจนหมด ป้องกันการปริ แตก และเน่า หากแคคตัสได้รับน้ำมากเกินควรจะทำให้ต้นและระบบชะงักการเจริญเติบโต
แสงแดด (sunlight) เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพืชทุกชนิดรวมถึงแคคตัสด้วย พืชแต่ละชนิดต้องการแสงแดดมากน้อยแตกต่างกันไป สำหรับแคคตัสควรได้รับแสงแดดอย่างน้อยครึ่งวัน หรือมากกว่า 6 – 8 ชั่วโมง/วัน ต้องพรางแสงให้ลดลงเหลือ 50 – 80 เปอร์เซนต์ หรืออาจให้รับแสงนช่วงเช้าถึงเที่ยง ซึ่งเป็นช่วงที่แดดไม่แรงนัก
สำหรับการเลี้ยงแคคตัสในห้องทำงาน ควรวางไว้ใกล้หน้าต่าง แสงสามารถผ่านเข้าได้ แต่ไม่ควรตั้งชิดกระจกหน้าต่างจนเกินไป เพราะความร้อนอาจทำให้ต้นเสียหาย และควรหมุนกระถางให้ได้รับแสงทุกด้าน เพราะอาจทำให้ต้นจะโน้มเอียงไปทางด้านที่มีแสง

ความสัมพันธ์กันระหว่างดิน น้ำ และแสงแดด รวมทั้งสายพันธุ์น้องหนาม หากเป็นไม้ไม่มีหนามเลยพวก Astrophytum อาจทำให้ไม่เสียหายได้หากแดดแรงเกินไป แต่ถ้าเป็นพวก Ferrocactus, Gymnocalycium, Melocactus พวกนี้จะทนทานต่อแดดในระดับหนึ่ง

โรงเรือน ไร่พุทธสิทธิ์ หน้าตาเป็นอย่างไร?
โรงเรือนของเราสร้างด้วยโครงเหล็กกัลวาไนต์ แบบคาดแดง มุงด้วยพลาสติคใสกัน UV 7% เป็นโรงเรือนกึ่งเปิดกึ่งปิด คือ เป็นโรงเรือนปิดที่สามารถระบายอากาศได้  โดยตัวโรงเรือนปิดพลาสติคให้เหลือไว้ 1/2 ของโรงเรือน แล้วนำมุ้งขาวปิดทับส่วนล่างของโรงเรือน ด้านล่างเป็นมุ้งรอบโรงเรือน ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี และยังสามารถกันแมลงได้อีกด้วย การพรางแสงที่สวนใช้สแลนสีดำ 60% พรางทั้งโรงเรือน เนื่องจากโรงเรือนของสวนเราตั้งกลางแจ้ง แสงแรงมาก และโดนแดดตลอดทั้งวัน ต้องพรางทั้งโรงเรือน

สภาพไม่มีโรงเรือน ช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อน้องหนามคือ เช้า – เที่ยง
สภาพโรงเรือน พลาสติก/หลังคา รวมทั้งสแลนที่ใช้สามารถกรองแสงได้ในระดับหนึ่ง สามารถลดความเสียหายจากแดดได้เป็นอย่างดี


..น้ำเยอะ แดดน้อย เน่าตาย

น้ำน้อย แดดเยอะ แห้งตาย..


มือใหม่..ปลูกแคคตัสท่านไหนอยากปรึกษา พูดคุยกัน แลกเปลี่ยนวิทยาการใหม่ๆ หนาม หนาม ฟาร์มยินดีแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเลี้ยงใหม่
เพื่อนำมาปรับใช้ และเผยแพร่ความรู้สู่มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น
..ไร่พุทธสิทธิ์..